Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | April 29, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

เราต้องกังวลแค่ไหนเมื่อ facebook ประกาศเปิด A.I. Lab แห่งใหม่ในปารีส

เราต้องกังวลแค่ไหนเมื่อ facebook ประกาศเปิด A.I. Lab แห่งใหม่ในปารีส
kawizara

ปัจจุบันเราอยู่ในยุคโซเชียลที่การตื่นมาแล้วหยิบมือถือกีอนเดินเข้าห้องน้ำเป็นเรื่องปกติ, การโพส ไลค์ เม้น แชร์กลายเป็นเรื่องปกติ และหนึ่งในสื่อโซเชียลที่ผู้คนทั่วโลกติดกันงอมแงมก็คือ Facebook

ทุกวันนี้เราใช้โซเชียลจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเสียแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องโพสบอก ต้องเช็คอิน บางคน shop ผ่านหน้า feed บ้างก็ปลูกต้นรักผ่านหน้าจอ จนหลายๆ ครั้งก็ยากที่จะหารอยต่อว่าอะไรคือชีวิตจริงเพราะดูเหมือนมันจะสะท้อนและร้อยเรียงกันไปเสียหมด

บ่อยครั้งเราไม้แค่ใช้ Facebook ในการสร้างและประกาศความเป็นตัวตนของเราอย่างเดียวเท่านั้นแต่สิ่งที่เราทำคู่กันไปคือการ “ส่อง” ไปส่องหน้า timeline ของคนอื่น ไปส่องเพจนั้นไป search หาของอันนี้ ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้จดจ่อกับ facebook ได้แย่างไม่รู้เบื่อก็ดูเหมือนจะเป็นหน้า feed ที่ไหลไปเรื่อยๆ ทำให้มีเรื่องใหม่ๆ เทรนมาแรงน่าสนใจผ่านสายตาเสมอ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราสนใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจากผลสำรวจก็เผยว่า 61% อ่านข่าวการเมืองผ่าน facebook ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าการเสพผ่านแหล่งข่าวอื่นๆ แถมที่น่าตกใจกว่าคือเพราะความเสพง่ายแชร์ง่าย เลยทำให้หลายๆ คนพร้อมเชื่อพร้อมแชร์เรื่องราวต่างๆ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนเสียด้วย

และเพื่อตอบสนองความต้องการในการเสพข้อมูล facebook ก็ได้สร้างอัลกอริทึมหรือชุดคำสั่งที่จะเป็นตัวเลือกว่าควรจะแสดงเนื้อหาแบบไหนให้ใครได้เห็นบนหน้า feed ซึ่งการปรับเนื้อหาให้เข้ากับความสนใจของแต่ละคนได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลดูว่าเพจแบบไหนบ้างที่เราเข้าไปไลค์ เราชอบคอมเม้นต์เนื้อหาอะไรเป็นต้น

และหากจะว่าไปการสร้างความฉลาดให้กับสิ่งไม่มีชีวิตแบบนี้ก็เข้าข่าย ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาความชอบของเราแล้ว facebook ก็ยังมีระบบจดจำใบหน้า เวลาเราโพสรูปอะไรลงไปมันกจะสามารถแยกได้ทันทีว่าคนเพื่อนในรูปของเราคือใครพร้อม tag เพื่อในภาพให้แบบอัตโนมัติ

แต่แค่นี้ยังดีไม่พอ ล่าสุด facebook ยังพยายามปรุงระบบ A.I. ให้ฉลาดมากขึ้นด้วยการขยายทีมนักพัฒนา A.I. ไปเปิดสาขาเพิ่มเติมที่กรุงปารีส โดย facebook กล่าวว่าการพัฒนา A.I. นี้จะช่วยให้ facebook ก้าวไปสู่อีกขั้นของการให้บริการที่สามารถเชื่อมต่อและแชร์ข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากกว่าไม่ว่าจะเป็นการจัดการหน้าฟีด, รูปภาพ ไปจนถึงการค้นหาต่างๆ

แม้จะดูดีในด้านของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแต่เมื่อประกอบกับความตื่นกลัว A.I. ในยุคปัจจุบันทำให้หลายๆ คนเริ่มกังวลว่าด้วยข้อมูล Big Data ที่ facebook ได้จากผู้ใช้งานในทั่วโลกทั้งในเชิงอารมณ์ความรู้สึกที่วัดจากการ like หรือแชร์โพส และในเชิงของเครื่องจักรที่วิเคราห์พวกสถิติการเข้าใช้งานหรือสถานที่ที่เราอยู่ จากทั้งหมดนี้ทำให้  A.I. ของ facebook สามารถประมวลผลข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงความชอบ ความกลัว หรือปฏิกิริยาที่เราจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้

ซึ่งนี่ดูเหมือนจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเรามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เพียงแค่การรู้ข้อมูลแต่นี่คือการรู้จักตัวตนของเราเลยทีเดียว จนนำไปสู่การตั้งคำถามที่ว่าผู้ใช้งานควรจะมีสิทธิ์เลือกกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวได้เองหรือไม่, facebook จำเป็นจะต้องรู้จักเรามากแค่ไหน

 

Source: popularmechanics

comments