เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้แต่ด้านเกษตรกรรม แม้ว่าแต่ก่อนเราจะเพราะปลูกด้วยแรงงานคนและสัตว์ แต่ว่าหลังๆ มานี้แม้แต่ในบ้านเราเองก็ได้มีการนำเอาเครื่องจักรเข้ามาช่วยทุ่นแรงอย่างเช่น รถไถ หรือ เครื่องเก็บเกี่ยวผลผลิตต่างๆ เป็นต้น และในช่วง 20 ปีมานี้หลายๆ ที่ในโลกก็ได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรไปอีกขั้นกับการนำเครื่องมือใหม่ๆ และระบบ Precision Farming เข้ามาใช้

ซึ่ง Precision Farming นั้นเกิดจากแนวคิดที่ว่าการปลูกพืชนั้นมีปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลทั้งเรื่องของดินฟ้าอากาศดังนั้นในไร่นาจึงมีความแตกต่างกันในแต่ละบริเวณ แม้จะอยู่ในไร่เดียวกันก็ตามซึ่งความแตกต่างนี้ก็ส่งผลให้เราได้ผลผลิตที่แตกต่างกันไปด้วย แนวคิดนี้จึงเป็นการปรับการดูแลให้เหมาะสมกับ สภาพที่แตกต่างนั้นเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการนำเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาช่วยจัดการเช่น รถใส่ปุ๋ยที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองและโดรนที่จะทำหน้าที่บินสำรวจพื้นที่ ที่จะเข้ามาช่วยตั้งแต่การตรวจสภาพดินเพื่อเลือกปลูกพืนให้เหมาะสม, การควบคุมการใส่ปุ๋ย และ ยาฆ่าแมลง, การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการเก็บข้อมูลสินค้า

เทคโนโลยีหลักๆ เลยที่จะเข้ามาช่วยในเทคโนโลยีด้านการเกษตรแบบใหม่นี้ก็คือ GPS ที่จะให้ข้อมูลด้านพื้นที่ที่ถูกต้องแม่นยำ ด้วยการคำนวณจากระยะห่างของพื้นที่กับดาวเทียมอย่างน้อยสามดวงเพื่อให้เครื่องจักรที่ทำงานในไร่ ในฟาร์มนั้นมีพิกัดที่ถูกต้องว่าควรจะไปที่ไหนเพื่อดำเนินการอะไร ยกตัวอย่างเช่น หากจะมีการใส่ปุ๋ยก็จะต้องมีการส่งเครื่องไปเก็บตัวอย่างของดินเพื่อเอามาวิเคราะห์เสียก่อนว่าดินในแต่ละพื้นที่ของไร่นั้นเป็นอย่างไร ที่ไหนต้องใส่ปุ๋ยอะไรมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่จะตั้งโปรแกรมว่าแต่ละพื้นที่จะต้องใส่ปุ๋ยอย่างไรเพื่อให้ดินดีเท่ากันและให้ผลผลิตที่มากโดยที่เราไม่ต้องเสียปุ๋ยเกินความจำเป็น เป็นต้น

ซึ่งแม้ยุคนี้จะเป็นยุคแห่งการเริ่มต้นแต่ก็คาดว่าการเกษตรแบบใหม่นี้จะเข้ามามีบทบาทกับโลกของเรามากขึ้นเพราะว่านอกจากจะเป็นการทำเพื่อเพิ่มประสิทธภาพในการเพาะปลูกแล้วยังเป็นการลดการใช้แรงงานคนลงอีกด้วย

 

Source: mashable