หลังจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีกรณีตำรวจใช้กำลังทำร้ายประชาชนหลายๆ กรณี เมื่อช่วงกลางปี 2014 ทางผู้บัญชาการกรมตำรวจนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาจึงใช้มาตรการกล้องติดตัวให้กับตำรวจลาดตระเวนราว 7,000 นายเพื่อใช้บันทึกเหตุการณ์ขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ซึ่งหลังจากนั้นติดกล้องนี้ไปได้ราวครึ่งปีก็พบว่าตำรวจมีความสัมพันธ์กับประชาชนดีขึ้นสอดคล้องกับข้อมูลภายในกรมตำรวจเองที่พบว่ามีการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ลดลงด้วย

และหลังผ่านการใช้งานไปครบหนึ่งปีทางเว็บไซต์ San Diego Union-Tribune เว็บรายงานข่าวท้องถิ่นของเมืองซานดิเอโก้ก็มีการเผยสถิติจากกรมตำรวจว่าการติดกล้องดังกล่าวนั้นทำให้เกิดผลดีในหลายๆ ด้าน ที่เห็นได้ชัดคือกล้องนี้ทำให้มีการร้องเรียนการใช้กำลังขณะปฏิบัติหน้าที่ลดลง 23% และข้อมีประชาชนตั้งแจ้งความตั้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ลดลง 44% อาจเป็นเพราะมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่แน่นหนาเตรียมพร้อมที่จะมัดตัวเจ้าหน้าที่หากทำผิดจริงทำให้นี่กลายเป็วิธีที่ได้ผลดีในการสร้างภาพลักษณ์ในแง่บวกและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตำรวจและประชาชน

แม้จะมีตัวเลขการร้องเรียนท่ีลดลงแต่ในรายงานกลับพบว่าตัวเลขการใช้กำลังในการเผชิญหน้ากับประชาชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเพิ่มขึ้นถึง 10% ซึ่งหลายๆ คนก็บอกว่าแม้กล้องจะเป็นตัวเลือกที่ดีแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดได้ แต่หากเราลองเจาะเข้าไปดูตัวเลขเชิงลึกนั้นกลับเผยว่าการใช้กำลังของตำรวจนั้นมีหลายระดับ ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมก็จะเป็นการใช้กำลังระดับที่ไม่รุนแรงอย่างเช่นการใช้น้ำหนักตัวกดคนร้ายในการเข้าจับกุมที่เพิ่มขึ้น 17% แต่ตัวเลขการใช้กำลังที่รุนแรงนั้นกลับลดลงไปมาก แถมในทางกลับกันการติดกล้องให้ตำรวจแบบนี้ก็เป็นการลดการทำร้ายร่างกายตำรวจจากประชาชนลงได้ถึง 36% ด้วยเช่นกันค่ะ

จริงๆ บ้านเราหันมาใช้กล้องแบบนี้บ้างก็ดีนะคะ นอกจากจะคุมพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ประเมินงานได้แล้วยังถือเป็นการปกป้องเจ้าหน้าที่จากการถูกใส่ร้าย และที่สำคัญยังไม่สามารถลดงบประมาณในการติดกล้อง CCTV ได้และน่าจะให้ภาพที่ชัดเจนจากมุมมองที่หลากหลายด้วย
Source : mic.com