Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | May 18, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

ส่อง 5 นวัตกรรมการแพทย์สุดล้ำจากสิงคโปร์

ส่อง 5 นวัตกรรมการแพทย์สุดล้ำจากสิงคโปร์
kawizara

ประเทศสิงคโปร์ถือได้ว่าเป็นเป็นประเทศที่รัฐให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านสุขภาพการแพทย์เป็นอย่างมากเพราะเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และด้วยการใส่ใจในคุณภาพด้านนี้จึงทำให้สิงคโปร์มีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงของประเทศสหรัฐ, บริษัทวิจัยและบริษัทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเปิดสาขาอยู่มากมายจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองบอสตันของเอเชียเลยก็ว่าได้ และเดี๋ยววันนี้จะพาไปดู 5เทคโนโลยีด้านการแพทย์จากสิงคโปร์กันค่ะว่าจะล้ำแค่ไหน

 

  1. นักวิจัยในสิงคโปร์สร้างเครื่องเล่นวีดีโอเกมแบบสวมใส่สำหรับผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น

เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นเป็นผลงานของนักวิจัยจากบริษัท Institute for Infocomm Research บริษัทวิจัยของบอสตันที่ไปเปิดสาขสอยู่ในสิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยฝึกสมาธิให้กับกลุ่มผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นที่อาจเกิดได้กับทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ด้วยการใช้อุปกรณ์สวยศรีษะเพื่อวัดกิจกรรมต่างๆ ของสมองที่เกี่ยวข้องกับระดับความสนใจโดยเฉพาะก่อนที่จะแปลงเป็นข้อมูลแล้วส่งผ่านบลูทูธมายังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตเพื่อให้ใช้ในการบังคับตัวละครภายในเกมนั้นๆ หากยิ่งมีสมาธิมากตัวละครในวีดีโอเกมก็จะยิ่งว่งได้เร็วขึ้น จึงทำให้เป็นการฝึกการใช้สมาธิแบบสนุกๆ ไปโดยไม่รู้ตัว

ซึ่งหลังจากวัดค่าและให้เด็กกลุ่มที่มีอาการสมาธิสั้นทดลองเล่นเกมเป็นเวลา 2เดือน โดยให้เล่นเป็นเวลา 20 นาที 3ครั้งต่อสัปดาห์ พบว่าอาการสมาธิสั้นนั้นลดลงไปถึง 40% เลยทีเดียว

 

  1. ติดตามอาการปวดหัวไมเกรนได้ง่าย แถมยังสามารถส่งต่อข้อมูลให้หมอได้ทันที

อาการปวดหัวไมเกรนนั้นบ่อยครั้งไม่ได้มีสาเหตุหรือช่วงเวลาการเกิดที่ชัดเจนทำให้ยากต่อการติดตามอาการ ซึ่งการติดตามอาการเป็นประจำร่วมกับการบ่งชี้อาการที่เกิดนั้นถือว่าจำเป็นมากๆ กับการตรวจรักษาโรค

ดังนั้นบริษัท startup ในสิงคโปร์อย่าง Healint จึงได้สร้างแอพพลิเคชั่นชื่อ Migraine Buddy ขึ้นมาเพื่อผู้ป่วยไมเกรนโดยเฉพาะ แอพตัวนี้แแกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานกรอกวัน เวลา ลักษณะอาการ สาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ไปจนถึงส่วนที่ปวด และยาที่ใช้

พร้อมกันนี้ในแอพพลิเคชั่นยังมีระบบตรวจจับการนอนหลับโดยจะโดยจะติดตามพฤติกรรมการนอนของผู้ใช้และมาหาความสัมพันธ์ร่วมกับพฤติกรรมอื่นๆ และอาการของผู้ใช้งานก่อนที่จะนำมาคาดดารณ์อาการปวดหัวที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

  1. แพทย์ชาวสิงคโปร์พัฒนาการทดสอบโรคตาที่เกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรม 

ต่อไปนี้คนไข้จะไม่ต้องรอลุ้นผลการตรวจโรคกระจกตาเสื่อมที่มีสาเหตุจากพัธุกรรมที่จะส่งผลให้ผู้ป่วยมองเห็นภาพซ้อนและมีอาการแวดหัวรุนแรงอีกต่อไป

เมื่อ Singapore’s Agency for Science, Technology & Research ได้ประกาศว่าคิดค้นการทดสอบ Polaris-TGFBI ที่สามารถตรวจหาความผิดปกติของยีนส์ TGFBI ซึ่งเป็นยีนส์ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ สำเร็จแล้ว โดยการตรวจนี้จะเป็นการหายีนส์ TGFBI เพื่อช่วยให้การดูแลรักษานั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและสามารถนำมาช่วยจักษุแพทย์ในการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้องแม่นยำซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคลักษณะดังกล่าว

Screen Shot 2558-12-22 at 4.30.32 PM

  1. แผ่นรองอัจฉริยะสำหรับเด็ก

สำหรับเด็กแล้วการนอนนั้นถือว่ามีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการเป็นอย่างมากดังนั้นจึงต้องมั่นใจว่าเด็กทารกนั้นจะได้รับการนอนหลับที่เพียงพอกับความต้องการ ทาง OSPICON เลยคิดค้นแผ่นรองอัจฉริยะ ที่จะทำหน้าที่ดูแลหนูน้อยขณะหลับด้วยการวัดลักษณะการหายใจด้วยเซ็นเซอร์ fiber optic เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นขณะหลับพร้อมรายงานผลผ่านทางแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ทันที นอกจากนี้ยังเอาข้อมูลที่ได้มาทำเป็นบันทึกการนอนหลับให้ผู้ปกครองสามารถติดตามได้ด้วย

ซึ่งจากการทดลองใช้ในโรงพยาบาลหลายๆ แห่งในสิงคโปร์ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่าค่าที่ได้จากแป่นรองนี้มีความเที่ยงตรงเชื่อถือได้ ซึ่งทางค่ายผู้พัฒนาก็แง้มว่ากำลังพัฒนาแป่นรองอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

 

  1. แอพพลิเคชั่นช่วงดูแลผู้สูงอายุเมื่ออยู่ตามลำพัง

สังคมเดี๋ยวนี้เป็นสังคมที่มีผู้สูงอายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่มีลูกหลายดูแล หรือบางกรณีลูกหลานก็ต้องออกไปทำงานในเวลากลางวันจึงยากที่จะคอยดูแลผู้สูงอายุตลอดทั้งวัน

เขาเลยมีการคิดค้นการติดเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวไว้ในบ้านเพื่อตรวจดูกิจกรรมต่างๆ ของผู้สูงอายุพร้อมทั้งระบบการแจ้งเตือน โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้จะทำการเก็บข้อมูลและศึกษารูปแบบการใช้ชีวิต กิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุจากนั้นจึงคอยดูหากตรวจพบความผิดปรกติขึ้น เช่น เข้าห้องน้ำนานกว่าปกติ อาจจะเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำ มันก็จะทำการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลหรือบุคคลที่ระบุไว้

 

Source: mashable

comments