Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | May 18, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

7ทักษะชีวิตที่กำลังจะหายไปในปี 2016

7ทักษะชีวิตที่กำลังจะหายไปในปี 2016
kawizara

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปอะไรๆ ก็เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่าวรวดเร็วและเข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตของเรา คนที่เกิดในยุคก่อนสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เย็ตรุ่งเรืองคงจะเข้าใจว่ามีอะไรหลายๆ สิ่งที่เราเคยทำด้วยตัวเอง แต่พอมาในยุคนี้เรากลับต้องดารตัวช่วยอย่างเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้นและเมื่อทำบ่อยเข้าจนกลายเป็นความเคยชินเราก็หลงลืมวิธีที่เก่าๆ ไปเสียแล้ว

ยิ่งเป็นเด็กที่เกิดในยุคสมาร์ทโฟรครองเมืองด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีอะไรหลายๆ อย่างที่พวกเขาเรียนรู้ในวัยเด็กที่แตกต่างจากยุคของเรามาก และถ้าจะว่าไปแล้วก็มีหลายๆ สิ่งในปี 2016 ที่กำลังจะหายไปจากการใช้ชีวิตของพวกเราเพราะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี มาดูดีกว่าว่าปีหน้าเราน่าจะต้องบอกลาอะไรกันบ้าง

Screen Shot 2558-12-24 at 11.47.27 AM

 

  1. ตัวเขียนภาษาอังกฤษ

เมื่อมีความนิยมใช้งานกันน้อยๆ ลงเรื่อยๆ จนแทบไม่มีใช้งานในชีวิตประจำวันตัวอักษรตีวเขียนแบบคลาสสิคที่เราเคยต้องเรียนกันสมัยประถมก็จะหายไปจากหลักสูตร นอกจากนี้แล้วเรายังเขียนน้อยลงเน้นการพิมพ์ การส่งข้อความมากขึ้นทั้งจาก smart tv, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน จึงไม่น่าแปลกที่ในปีหน้าตัวอักษรตัวเขียนจะค่อยๆ หายไป พร้อมกับการเข้ามาของศัพท์ใหม่ๆ จากบนโลกออนไลน์ที่แพร่หลายในโลกออฟไลน์มากขึ้นรวมถึงลายมือที่แย่ลง

Screen Shot 2558-12-24 at 11.47.35 AM

  1. การส่งจดหมายทางไปรษณีย์

เมื่อก่อนตอนสมัยเรียนเราจะถูกสอยวิธีการจ่าหน้าซองจดหมายว่าต้องทำอย่างไร ฝึกเขียนจดหมายหาเพท่อนต่างโรงเรียน แต่จำได้หรือไม่ว่าครั้งสุดท้ายที่เราส่งจดหมายคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวคือเมื่อไหร่

นั่นเป็นเพราะโลกของเราแคบลงด้วยอินเตอร์เน็ต เราสามารถส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้เพื่อนได้แค่ปลายคลิ๊ก, อวยพรให้เพื่อนหายป่วยได้แค่คอมเม้นต์ใน Facebook ซึ่งนอกจากจะรวดเร็วแล้วยังถูกกว่าและวะดวกกว่าอีกด้วย ดังนั้นในปีหน้าสิ่งที่เราต้องบอกลาอีกอย่างก็คือการส่งจดหมายทางไปรษณีย์

Screen Shot 2558-12-24 at 11.47.50 AM

  1. การอ่านแผนที่

เมื่อก่อนเวลาที่เราจะเดินทางท่องเที่ยวไปไหนต่อไหนสิ่งที่นีกเดินทางทุกคนต้องมีติดตัวก็คือแผนที่แผ่นใหญ่ที่บอกตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้อุปกรณ์คู่ใจของนักเดินทางเปลี่ยนไป จากแผนที่ขนาดใหญ่ก็กลายเป็นอุปกรณ์ GPS นำทางหรือสมาร์ทโฟนพร้อมแอพแผนที่ดีๆ สักตัว เพราะนอกจากจะสะดวกพกพาและง่ายต่อการค้นหามากกว่าแล้วยังให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่าด้วยอย่างเช่นการปรับโหมดเป็น google street view ให้เราเห็นสถานที่นั้นได้สมจริงแบ 360องศา, บอกได้ว่าเราต้องเดินอีกกี่ก้าวถึงจะถึงจุดหมาย เมื่อมีข้อดีมากมายขนาดนี้ก็คงไม่ต้องบอกว่าแผนที่เป็นอีกสิ่งที่จะหายไปในปี 2016

Screen Shot 2558-12-24 at 11.48.03 AM

  1. ทักษะการใช้ห้องสมุด

ปัจจุบีนมีผลสำรวจจาก Pew Research ว่าจำนวนการใช้ห้องสมุดนั้นลดลงปัจจุบันมีอัตราเด็กอายุต่ำกว่า 16 เข้าใช้งานเพียงแค่ 46% ซึ่งลดลงจากสถิติในปี 2012 ที่เคยอยู่ที่ 53% พอควร และมีคนราว 27% ที่เข้าห้องสมุดเพื่อไปใช้งาน Wi-Fi ฟรี

ที่เป็นแบบนี้เพราะปัจจุบันหนังสือไม่ใช่แหล่งเรียนรู้หลักของเราอีกต่อไป เรามีพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ แชร์ประสบการณ์กับคนทั่วโลกผ่านทางแินเตอร์เน็ตแถมมันยังใกล้ตัวเรามากกว่าห้องสมุดเยอะ เราสามารถค้นหาเรื่องที่สนใจได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าขณะเข้าห้องน้ำ หรือขึ้นรถเมล์ ประกอบกับบริการเช่า-ซื้อหนังสือลยโลกออนไลน์ที่แพร่หลายมากขึ้นด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนเข้าห้องสมุดกันน้อยลง

Screen Shot 2558-12-24 at 11.48.13 AM

  1. การสื่อสารแบบเห็นหน้าเห็นตากัน

ไม่แปลกที่คนอยู่ห่างไกลกันจะใช้เทคโนโลยีเพื่อติดต่อสื่อสารกันจากระยะไกล เช่นการใช้ Face time หรือ VDO conference เพื่อให้ได้พูดคุยกัน แต่กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้แม้เราจะอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมเราก็สื่อสารกันผ่านทางสมาร์ทโฟนเสียแล้ว

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเจอเวลาที่นัดเพื่อนๆ ทางข้าว 10นาทีแรกเป็นชว่งเวลาของการ groupfie ต่อด้วยการ check-in ลงภาพเพื่อนๆ พร้อมแท็ก และโพสแคปชั่น ก่อนที่คนอื่นๆ จะเข้ามาผลัดกันแสดงความคิดเห็นในรูป สรุปแล้วเราเจอกันแต่ไม่คุยกันต่อหน้ากลับก้มหน้าคุยกัน่ผานจอ

ซึ่งสุดท้ายแล้วนี่ไม่ใช่การสื่อสารแบบเห็นหน้าเห็นตาเท่านั้นที่จะหายไป ทักษะในการเข้าสังคมก็จะลดต่ำลงด้วยเช่นกัน

Screen Shot 2558-12-24 at 11.48.30 AM

  1. การถ่ายภาพแบบไม่ใช่ selfie

เมื่อกล้องสมาร์ทโฟนคุณภาพดีขึ้น แอพแต่ภาพมีฟีเจอร์มากขึ้น คนเราให้ความสำคัญกับตัวเองและรูปลักษณ์มากขึ้น ก็ไม่น่าแปลกที่เราจะใช้มือถือที่พกติดตัวเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33ถ่ายภาพอวดชีวิตดี๊ดีกันมากขึ้น บางคนถึงขั้นจริงจังกับการ selfie จนก้าวพลาดตกบันไดแขนหักก็มี

เมื่อการ selfie เป็นเทรนแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกอจวัตรของทุกๆ คนก็แน่นอนว่าการถ่ายภาพสิ่งอื่นๆ โดยไม่ติดภาพหน้าตนเข้าไปนั้นจะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ ในปีหน้าเราคงจะเห็นเพื่อนๆ โพสภาพวิวาวยๆ จัดคอมโพสภาพปราณีตๆ ลดลงมากแน่ๆ

Screen Shot 2558-12-24 at 11.48.42 AM

 

  1. ความอดทน และความใส่ใจ

ทุกอย่างในโลกยุคไอทีต้องก้าวตามให้ทันต้องไปให้ไวจนหลายๆ ครั้งมันก็ทำให้เราหลงลืมรายละเอียดเล็กๆ ระหว่างทางไป เมื่อเราทำทุกๆ อย่างได้สะดวกรวดเร็วบ่อยครั้งเราก็ลืมที่จะอดทนรอ “ฉันไม่เคยต้องรอโหลดหน้าเว็ปนานขนาดรออาหารสุกเลยทำไมนานจัง เสียเวลาชีวิตหมด” นอกจากนี่จะทำให้เราสมาธิสั้นแล้วยังทำให้เราขี้หงุดหงิดขึ้นเยอะเลย

 

Source: mashable

comments